ยกบ้านไม้ เพิ่มความมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัย พร้อมยืดอายุบ้านให้อยู่กับเราไปอีกนาน

การ ยกบ้านไม้ เป็นงานซ่อมแซมที่เจ้าของบ้านจำนวนมากมักมองข้าม ทั้งที่ในความเป็นจริง “บ้านไม้” มีโอกาสทรุดเอียง ผุกร่อน หรือเสียหายง่ายกว่าบ้านคอนกรีต เนื่องจากโครงสร้างไม้มีอายุการใช้งานจำกัด และพื้นดินที่รองรับก็มักมีการเปลี่ยนสภาพตลอดเวลา การยกบ้านไม้จึงเปรียบเสมือนการ “ต่ออายุบ้านเก่า” ให้กลับมาอยู่สบาย แข็งแรง และปลอดภัยกว่าเดิม โดยเฉพาะบ้านไม้เก่า บ้านเรือนไทย บ้านไม้ชั้นเดียว หรือบ้านยกพื้นแบบดั้งเดิมที่ต้องการปรับระดับใหม่ให้กลับมาตรงและใช้งานได้ดีขึ้น

สาเหตุที่ทำให้ต้องยกบ้านไม้

การยกบ้านไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะบ้านทรุดเท่านั้น แต่ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้เจ้าของบ้านต้องเรียกช่างยกบ้านมืออาชีพมาดำเนินการ ได้แก่

1. พื้นทรุด – เสาเริ่มเอียง

พื้นที่ที่เป็นดินอ่อน เช่น นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ มักประสบปัญหา “ดินทรุดตัว” ทำให้เสาบ้านหรือตอม่อรับน้ำหนักไม่เท่ากัน เมื่อเวลาผ่านไปบ้านจะเริ่มเอียง ประตูปิดไม่สนิท ผนังแตกร้าว หรือพื้นบ้านลื่นไหล

2. เสาไม้ผุ กินปลวก หรือโดนน้ำกัดเซาะ

บ้านไม้เก่ามักเจอปลวกทำลายโครงสร้าง หรือเสาไม้ผุจนรับน้ำหนักไม่ได้ การยกบ้านจึงจำเป็นเพื่อเปลี่ยนเสาไม้เป็นเสาคอนกรีต หรือเสาเหล็กที่แข็งแรงกว่า

3. ต้องการต่อเติม เปลี่ยนฟังก์ชันบ้าน

ผู้ที่ต้องการต่อเติมห้องครัว ห้องน้ำ ใต้ถุน หรือทำพื้นที่ใช้งานเพิ่ม มักต้องยกบ้านให้สูงขึ้นเพื่อปรับระดับโครงสร้างเดิมให้แข็งแรงก่อนการต่อเติมใหม่

4. ปรับระดับสูงเพื่อป้องกันน้ำท่วม

หลายพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเป็นประจำ เช่น พื้นที่ริมน้ำ พื้นที่ต่ำ หากยกบ้านให้สูงขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียหายของพื้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ และระบบไฟฟ้า

ข้อดีของการยกบ้านไม้

1. ทำให้บ้านกลับมาตรงและมั่นคง

บ้านที่ทรุดเอียงสามารถปรับระดับให้กลับมาเสมอได้ด้วยแม่แรงไฮดรอลิกแรงสูง ช่วยให้โครงสร้างแข็งแรงและใช้งานได้อีกหลายสิบปี

2. ยืดอายุการใช้งานของบ้านไม้เก่า

การยกบ้านเพื่อซ่อมฐานรากหรือตอม่อใหม่ ช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น บ้านทรุด ล้ม หรือโครงสร้างพัง

3. ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย

หลังยกบ้านให้สูงขึ้น เจ้าของบ้านสามารถต่อเติมพื้นที่ใต้ถุนเป็นห้องเก็บของ โรงจอดรถ หรือมุมพักผ่อน

4. ป้องกันความชื้นและน้ำท่วม

การยกพื้นทำให้ตัวบ้านลอยสูงจากระดับน้ำ ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องปลวก ความชื้น และน้ำกัดเซาะ

ขั้นตอนการยกบ้านไม้แบบมืออาชีพ

การยกบ้านไม้ต้องทำอย่างละเอียดและปลอดภัย โดยทีมช่างผู้ชำนาญงาน ขั้นตอนมีดังนี้

1. ตรวจสภาพโครงสร้างบ้าน

ช่างจะตรวจสอบเสา ตอม่อ คานไม้ ความแข็งแรงของพื้น รวมถึงระดับการทรุดตัว เพื่อนำมาวิเคราะห์จุดที่ต้องยกและวางแผนการยกอย่างถูกต้อง

2. ใช้แม่แรงไฮดรอลิกในการยกทีละจุด

การยกจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยใช้แม่แรงยกพร้อมกันหลายจุดเพื่อป้องกันบ้านเอียงหรือแตกร้าว ระหว่างการยกต้องมีการตรวจระดับทุกครั้ง

3. ปรับระดับและเสริมโครงสร้าง

เมื่อยกได้ระดับที่ต้องการ ช่างจะดำเนินการเสริมเสาใหม่ ตอม่อใหม่ หรือคอนกรีตรับน้ำหนักที่มั่นคงกว่าเดิม รวมถึงปรับคานที่เอียงหรือเสียหาย

4. ตรวจเช็กและเก็บงาน

หลังจากยกบ้านเสร็จแล้ว จะมีการเช็กพื้น ประตู หน้าต่าง ท่อน้ำ รอยแตกร้าว เพื่อซ่อมแซมให้พร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย

ค่าใช้จ่ายในการยกบ้านไม้ ราคาประมาณเท่าไหร่

ราคายกบ้านไม้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่

• ขนาดบ้าน

• ระดับความทรุด

• ความสูงที่ต้องยก

• จำนวนเสาและสภาพโครงสร้าง

• การเสริมคอนกรีตหรือเปลี่ยนเสาใหม่

โดยทั่วไป ราคายกบ้านไม้เริ่มต้นประมาณ 80,000 – 300,000 บาท และอาจสูงขึ้นตามความซับซ้อนของงาน

ควรเลือกช่างยกบ้านไม้แบบไหนให้ปลอดภัยที่สุด

เพื่อความมั่นใจ เจ้าของบ้านควรเลือกช่างที่มีประสบการณ์จริงและมีอุปกรณ์พร้อม เช่น
✔ มีผลงานยกบ้านไม้จริง
✔ ใช้แม่แรงไฮดรอลิกมาตรฐาน
✔ มีทีมงานเพียงพอ
✔ ประเมินงานหน้างานก่อนเสนอราคา
✔ ให้คำแนะนำด้านโครงสร้างได้
✔ มีความรับผิดชอบหลังงานเสร็จ

การยกบ้านไม้เป็นงานที่ต้องใช้ความชำนาญ หากเลือกช่างที่ไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้บ้านเอียง แตกหัก หรือเสียหายได้

สรุป: ยกบ้านไม้ ช่วยให้บ้านแข็งแรง ปลอดภัย และใช้งานได้อีกยาวนาน

สำหรับผู้ที่มีบ้านไม้เก่า บ้านทรุด บ้านเอียง หรือต้องการต่อเติมเพิ่ม การ ยกบ้านไม้ ถือเป็นทางออกที่คุ้มค่าและปลอดภัยที่สุด เพราะช่วยให้

• บ้านกลับมาตรง

• โครงสร้างแข็งแรงขึ้น

• ป้องกันปลวกและความชื้น

• เพิ่มพื้นที่ใช้สอย

• และยืดอายุบ้านให้อยู่กับครอบครัวไปอีกหลายสิบปี

หากต้องการให้บ้านไม้สวยงามเหมือนใหม่ แนะนำให้ปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญด้านงานยกบ้านโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้งานที่ปลอดภัยและมาตรฐานสูงที่สุด https://shorturl.asia/sIRa2