บ้านคือที่พักอาศัยที่ทุกคนคาดหวังให้มั่นคงและปลอดภัย แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลายครอบครัวอาจพบเจอกับปัญหา บ้านทรุดเอียง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของโครงสร้างอาคาร หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อทั้งตัวบ้านและผู้อยู่อาศัย การแก้ไขจึงควรทำอย่างถูกวิธี โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์
สภาพดินอ่อนหรือดินถมไม่แน่น – พื้นดินไม่แข็งแรง ทำให้เสาเข็มและโครงสร้างไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้เต็มที่
เสาเข็มสั้นหรือไม่ได้มาตรฐาน – บ้านที่สร้างด้วยเสาเข็มตื้นเกินไปมักเกิดการทรุดตัวไม่เท่ากัน
การใช้งานพื้นที่ผิดประเภท – เช่น การวางของหนักหรือดัดแปลงต่อเติมโดยไม่เสริมโครงสร้างให้แข็งแรงเพียงพอ
น้ำรั่วซึมหรือท่อน้ำแตก – ส่งผลให้ดินรอบ ๆ เสาเข็มอ่อนตัว เกิดการทรุดเอียงได้ง่าย
พื้นบ้านหรือพื้นกระเบื้องเกิดการเอียงหรือแตก
ผนังแตกร้าวเป็นแนวยาว โดยเฉพาะใกล้ขอบประตูหน้าต่าง
ประตูหรือหน้าต่างปิดเปิดยากผิดปกติ
เฟอร์นิเจอร์หรือของใช้ภายในบ้านวางแล้วเอียง
หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบตรวจสอบโดยวิศวกรโครงสร้าง เพื่อประเมินระดับความรุนแรงและหาวิธีแก้ไข
การเสริมเสาเข็มใหม่ (Micro Pile / Helical Pile) – เหมาะสำหรับบ้านที่ทรุดตัวหนัก ช่วยยกและปรับสมดุลตัวบ้านให้กลับสู่ตำแหน่งเดิม
การอัดฉีดน้ำยาหรือปูน (Soil Cement / Chemical Grouting) – ใช้ปรับปรุงดินให้แน่นขึ้น ป้องกันการทรุดต่อเนื่อง
การยกปรับระดับบ้าน (House Lifting) – ใช้เครื่องมือไฮดรอลิกยกตัวบ้านขึ้นพร้อมเสริมโครงสร้างใหม่
ซ่อมรอยแตกร้าว – หลังจากแก้ไขโครงสร้างแล้วจึงซ่อมแซมผนัง พื้น และส่วนตกแต่งอื่น ๆ
ป้องกันความเสียหายลุกลามไปยังโครงสร้างหลัก
รักษาความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย
ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว หากแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ
เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินและทำให้บ้านกลับมามั่นคงน่าอยู่
บ้านทรุดเอียง เป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจส่งผลต่อความปลอดภัยและโครงสร้างโดยรวม การแก้ไขที่ถูกวิธีควรใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านงานซ่อมบ้านทรุดโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมเสาเข็มใหม่ การอัดฉีดปรับปรุงดิน หรือการยกปรับระดับบ้าน หากพบสัญญาณผิดปกติควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อให้บ้านกลับมาแข็งแรงและปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว
https://shorturl.asia/sIRa2