ซ่อมพื้นทรุด วิธีแก้ปัญหาพื้นบ้านและอาคารทรุดตัวอย่างได้ผล

ปัญหา พื้นทรุด มักเกิดขึ้นกับบ้านและอาคารที่สร้างมาหลายปี หรือแม้แต่บ้านใหม่ที่ก่อสร้างบนดินอ่อน หากไม่มีการเสริมเสาเข็มที่ได้มาตรฐาน เมื่อเวลาผ่านไปดินใต้ฐานรากจะยุบตัว ส่งผลให้พื้นเกิดการทรุด ทำให้บ้านเอียง เกิดรอยร้าวบนผนัง ประตู–หน้าต่างปิดไม่สนิท และที่สำคัญอาจกระทบต่อความปลอดภัยของโครงสร้างโดยรวม ดังนั้นการ ซ่อมพื้นทรุด จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม

สาเหตุหลักของพื้นทรุด

• ดินอ่อน: ดินบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑลส่วนใหญ่เป็นดินเหนียวอ่อน ทำให้รับน้ำหนักได้ไม่ดี

• น้ำใต้ดินลดระดับ: การสูบน้ำบาดาลหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทำให้ดินยุบตัว

• การก่อสร้างต่อเติม: พื้นที่ที่ไม่ได้ลงเสาเข็ม เช่น ครัวหรือโรงจอดรถ มักเกิดการทรุดเร็วกว่าส่วนอื่น

• วัสดุเสื่อมสภาพ: คอนกรีตหรือโครงสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานก็มีผลเช่นกัน

วิธีซ่อมพื้นทรุดที่นิยมใช้

1. การอัดฉีดน้ำยาซีเมนต์ (Grouting)
   เป็นการเจาะรูและอัดซีเมนต์เหลวลงไปใต้พื้น เพื่อเติมเต็มช่องว่างและยกพื้นให้กลับสู่ระดับปกติ วิธีนี้ใช้เวลาซ่อมไม่นานและไม่ต้องทุบทิ้งทั้งหมด

2. การใช้เสาเข็มไมโครไพล์ (Micropile)
   เป็นการตอกเสาเข็มขนาดเล็กลงไปใต้โครงสร้าง เพื่อรับน้ำหนักและยกพื้นให้เสถียร วิธีนี้แข็งแรงและแก้ปัญหาได้ระยะยาว เหมาะกับพื้นทรุดหนักหรืออาคารที่ต้องการความมั่นคงสูง

3. การทุบพื้นและเทพื้นใหม่
   เหมาะสำหรับพื้นที่เล็กหรือทรุดไม่มาก แต่เป็นวิธีที่สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่า อีกทั้งยังไม่แก้สาเหตุหลักของดินอ่อน

เลือกวิธีซ่อมพื้นทรุดอย่างไรให้คุ้มค่า

• ตรวจสอบระดับการทรุดและความรุนแรงก่อนตัดสินใจ

• เลือกผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์และใช้วัสดุคุณภาพ

• พิจารณาความคุ้มค่าระยะยาว ไม่ใช่แค่ราคาถูกที่สุด

• หากบ้านอยู่ในพื้นที่ดินอ่อน ควรใช้เสาเข็มไมโครไพล์เพื่อป้องกันการทรุดซ้ำ

สรุป

การ ซ่อมพื้นทรุด ไม่เพียงช่วยให้บ้านกลับมาสวยงามและใช้งานได้ปกติ แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างและเพิ่มความปลอดภัยในระยะยาว หากพบปัญหาพื้นทรุด ควรรีบหาผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและซ่อมแซมโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามจนกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเดิม https://shorturl.asia/sIRa2