ศาลาเป็นพื้นที่พักผ่อนหรือใช้งานอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะตั้งอยู่ในวัด บ้านพักอาศัย สวนสาธารณะ หรือสถานที่ท่องเที่ยว แต่เมื่อใช้งานไปนาน ๆ หลายแห่งมักประสบปัญหา ศาลาทรุด ซึ่งเกิดจากโครงสร้างฐานรากอ่อนแอ หรือดินใต้ฐานรากมีการยุบตัว หากปล่อยทิ้งไว้ไม่เพียงทำให้ศาลาใช้งานได้ไม่ปลอดภัย แต่ยังอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตได้
ดินอ่อนหรือดินไม่แน่น – ศาลาที่ปลูกสร้างบนดินอ่อน เช่น ดินริมคลอง ดินริมบึง หรือดินที่ไม่ได้บดอัดอย่างดี มีโอกาสทรุดตัวได้ง่าย
น้ำกัดเซาะ – ศาลาที่ตั้งอยู่ใกล้น้ำ เมื่อมีน้ำหลากหรือกระแสน้ำแรง จะกัดเซาะดินใต้ฐานจนศาลาเอียงหรือทรุดลง
โครงสร้างเสื่อมสภาพ – เสาไม้หรือคอนกรีตที่ใช้งานมานานอาจผุกร่อน แตกร้าว จนรับน้ำหนักได้ไม่ดี
การก่อสร้างไม่ถูกวิธี – ศาลาที่สร้างโดยไม่ได้ลงเสาเข็มหรือมีโครงสร้างไม่แข็งแรงเพียงพอ ย่อมมีความเสี่ยงต่อการทรุด
พื้นศาลาเอียง ทำให้เดินแล้วสะดุดหรือหกล้มง่าย
เสาแตกร้าว จนมีความเสี่ยงพังถล่ม
หลังคาเอียง อาจทำให้เกิดการรั่วซึมหรือหล่นลงมา
หากเป็นศาลาวัดหรือศาลาสาธารณะ อาจเป็นอันตรายกับผู้คนจำนวนมากที่ใช้งาน
ตรวจสอบสภาพโครงสร้าง – ควรให้วิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ดีดศาลาและเสริมฐานราก – การดีดยกศาลาและตอกเสาเข็มใหม่ หรือเสริมฐานรากให้แข็งแรง เป็นวิธีแก้ที่ยั่งยืน
ซ่อมแซมเสาและพื้น – หากโครงสร้างเสียหาย ควรซ่อมแซมหรือเปลี่ยนเสาใหม่ให้มั่นคง
ป้องกันน้ำกัดเซาะ – ทำคันดินหรือกำแพงกันดินรอบ ๆ ศาลา เพื่อป้องกันการทรุดในอนาคต
เลือกวัสดุที่ทนทาน – หากต้องสร้างหรือซ่อมใหม่ ควรเลือกใช้วัสดุคุณภาพ เช่น คอนกรีตเสริมเหล็กหรือไม้เนื้อแข็ง
ปัญหา ศาลาทรุด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัยของผู้ใช้งาน การตรวจสอบและซ่อมแซมอย่างถูกวิธีตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของศาลา และลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว หากพบว่าโครงสร้างมีการทรุด ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมอาคารหรือวิศวกรโครงสร้าง เพื่อให้ศาลากลับมาแข็งแรงและปลอดภัยอีกครั้ง https://shorturl.asia/sIRa2