ต่อ เติม แล้ว ทรุด
หลายบ้านที่ทำการต่อเติมส่วนต่างๆ เช่น ครัวหลังบ้าน โรงรถ หรือห้องพักเพิ่ม มักประสบปัญหา “ทรุดตัว” หลังจากใช้งานไม่นาน ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างแล้ว ยังทำให้เจ้าของบ้านต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน บทความนี้จะพาไปรู้จักกับต้นเหตุหลักของการต่อเติมแล้วทรุด เพื่อให้เจ้าของบ้านวางแผนและป้องกันได้อย่างถูกวิธี
หนึ่งในสาเหตุหลักของการทรุดคือ “ฐานรากไม่เหมาะสม” ส่วนต่อเติมมักใช้ฐานรากแบบตื้น (ฐานแผ่) ที่ไม่ลึกถึงชั้นดินแข็ง โดยเฉพาะหากพื้นที่เดิมเคยถมดินใหม่ หรือมีชั้นดินอ่อน การทรุดตัวจึงเกิดขึ้นง่าย และไม่เท่ากับตัวบ้านหลักที่ใช้เสาเข็มลึก
เพื่อประหยัดงบประมาณ เจ้าของบ้านบางรายอาจเลือกไม่ตอกเสาเข็ม หรือใช้เสาเข็มยาวไม่ถึงชั้นดินแข็ง ทำให้โครงสร้างรับน้ำหนักได้ไม่ดี เมื่อผ่านไปสักพัก โครงสร้างจะค่อยๆ ทรุด แตก ร้าว หรือแยกออกจากตัวบ้าน
หลายครั้งที่ช่างก่อสร้างเชื่อมต่อส่วนต่อเติมกับตัวบ้านเดิม เช่น ยึดผนัง พื้น หรือคานเข้าหากันโดยตรง แต่ฐานรากต่างชนิดกัน ทำให้เมื่อเกิดการทรุดตัวไม่เท่ากัน โครงสร้างที่เชื่อมโยงกันจะเกิดแรงตึง จนทำให้แตกร้าวหรือพังลงมาได้
การต่อเติมที่เพิ่มวัสดุก่อสร้างหนัก เช่น หลังคากระเบื้อง ผนังก่ออิฐ หรือเทพื้นคอนกรีตหนาเกินความจำเป็น ทำให้ฐานรากรับน้ำหนักไม่ไหว จนนำไปสู่การทรุดตัวเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
การสำรวจชั้นดินก่อนการต่อเติมเป็นขั้นตอนสำคัญที่หลายคนมองข้าม ดินแต่ละพื้นที่มีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน เช่น ดินเหนียว ดินทราย หรือดินถม หากไม่วิเคราะห์ให้ดี การออกแบบฐานรากอาจไม่เหมาะสมกับสภาพดินจริง
สรุป: ปัญหาส่วนต่อเติมทรุดสามารถหลีกเลี่ยงได้ หากมีการวางแผนและออกแบบโครงสร้างอย่างถูกต้อง ตั้งแต่การสำรวจดิน การเลือกใช้ฐานราก และการแยกโครงสร้างจากตัวบ้านหลักอย่างเหมาะสม หากเจ้าของบ้านกำลังวางแผนต่อเติม ควรปรึกษาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาวและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมภายหลัง https://shorturl.asia/sIRa2