เมื่อบ้านที่เราอยู่อาศัยเริ่มมีอายุเพิ่มขึ้น ปัญหาหนึ่งที่มักเกิดขึ้นคือ “รั้วทรุด” ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายด้านความปลอดภัยและความสวยงามของบ้าน แต่ยังอาจกลายเป็นปัญหาด้านกฎหมายได้เช่นกัน โดยเฉพาะในกรณีที่รั้วดังกล่าวอยู่ติดกับที่ดินของเพื่อนบ้าน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจกับ กฎหมายรั้วทรุด ที่เจ้าของบ้านควรรู้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจบานปลายจนกลายเป็นข้อพิพาททางกฎหมาย
รั้วทรุดสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
การก่อสร้างรั้วบนดินที่ไม่ได้รับการถมอย่างแน่นหนา
การระบายน้ำไม่ดี ทำให้ดินอุ้มน้ำและอ่อนตัว
การใช้งานวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ
การเปลี่ยนแปลงของระดับดินระหว่างที่ดินสองแปลง
ไม่ว่ารั้วจะทรุดจากสาเหตุใด หากรั้วนั้นอยู่ในแนวเขตที่ดินใกล้กับเพื่อนบ้าน ก็อาจทำให้เกิดข้อขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ์และความรับผิดชอบได้
ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 ระบุว่า เจ้าของที่ดินมีสิทธิที่จะสร้างรั้วหรือกำแพงเพื่อแบ่งเขตที่ดิน แต่ต้องไม่รุกล้ำเขตที่ดินของผู้อื่น และหากมีการทรุดตัวหรือพังเสียหาย เจ้าของที่ดินก็มีหน้าที่ซ่อมแซมหรือรื้อถอนตามความเหมาะสม
หากรั้วทรุดทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือรุกล้ำเขตเพื่อนบ้าน เช่น กำแพงเอียงล้มไปฝั่งตรงข้าม หรือดินทรุดลงในเขตเพื่อนบ้าน เจ้าของรั้วมีความรับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหายตามกฎหมาย
การตรวจสอบแนวเขตที่ดินสามารถทำได้โดยการว่าจ้างเจ้าหน้าที่รังวัดจากกรมที่ดิน หรือดูจากโฉนดที่ดินของตนเอง หากพบว่ารั้วรุกล้ำจริง ควรรีบแก้ไขและเจรจากับเพื่อนบ้านอย่างสุภาพ เพื่อป้องกันการฟ้องร้องหรือปัญหาในอนาคต
ประเมินสภาพ – ตรวจสอบว่ารั้วทรุดในระดับใดและมีความเสี่ยงต่อการล้มทับหรือไม่
แจ้งเพื่อนบ้าน – หากรั้วอยู่ติดกับที่ดินเพื่อนบ้าน ควรแจ้งและพูดคุยอย่างเปิดเผย
ว่าจ้างช่างซ่อม – เลือกผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์เพื่อดำเนินการซ่อมแซมอย่างถูกต้อง
เก็บหลักฐาน – ถ่ายภาพรั้วทรุดและเอกสารการซ่อมไว้ เผื่อกรณีเกิดข้อพิพาท
กฎหมายรั้วทรุดไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากไม่เข้าใจหรือไม่ดูแลอย่างถูกวิธี อาจส่งผลกระทบถึงเพื่อนบ้านและนำไปสู่ข้อพิพาททางกฎหมาย การหมั่นตรวจสอบ ดูแล และซ่อมแซมรั้วบ้านเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้คุณอยู่อาศัยได้อย่างอุ่นใจ และไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องไม่คาดคิดในอนาคต https://shorturl.asia/sIRa2