การเกิดรอยร้าวในอาคารถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่เจ้าของบ้านหรือผู้ดูแลอาคารไม่ควรมองข้าม เพราะรอยร้าวอาจเป็นสัญญาณของปัญหาโครงสร้างที่ซ่อนอยู่ หากละเลยอาจส่งผลต่อความปลอดภัยและมูลค่าของทรัพย์สินได้ ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับ แนวทางตรวจสอบรอยร้าวอาคาร อย่างถูกต้อง เพื่อช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และจัดการกับปัญหาได้ตั้งแต่ต้น
รอยร้าวผิว (Hairline Cracks)
เป็นรอยร้าวขนาดเล็กที่พบได้บ่อยบริเวณผนังหรือฝ้าเพดาน มักเกิดจากการหดตัวของปูนฉาบเมื่อแห้ง ไม่เป็นอันตรายต่อโครงสร้าง
รอยร้าวตามแนวเสา-คาน
หากรอยร้าวเกิดบริเวณรอยต่อระหว่างผนังกับเสาหรือคาน อาจเป็นสัญญาณของการเคลื่อนตัวของโครงสร้าง ซึ่งต้องให้วิศวกรตรวจสอบอย่างละเอียด
รอยร้าวทะลุผนังหรือพื้น
เป็นรอยร้าวที่อาจบ่งบอกถึงปัญหาโครงสร้างฐานราก เช่น การทรุดตัวไม่เท่ากันของอาคาร ต้องดำเนินการวิเคราะห์เชิงลึก
เริ่มต้นจากการบันทึกตำแหน่ง ความยาว และทิศทางของรอยร้าว หากรอยร้าวอยู่ที่จุดเดิมซ้ำ ๆ หรือมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ควรให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาประเมิน
มีอุปกรณ์สำหรับวัดความกว้างของรอยร้าว เช่น Crack Gauge หรือใช้เทปวัดขนาดร่วมกับภาพถ่าย เพื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงตามเวลา
การถ่ายภาพและบันทึกความเปลี่ยนแปลงของรอยร้าวทุก 1–3 เดือน จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มได้ง่ายขึ้น
หากรอยร้าวมีลักษณะผิดปกติ ขยายตัวเร็ว หรือเกิดในจุดสำคัญของอาคาร เช่น คาน เสา หรือฐานราก ควรให้วิศวกรโครงสร้างตรวจสอบโดยละเอียด
เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ
ออกแบบโครงสร้างโดยวิศวกรที่มีใบอนุญาต
ดูแลการก่อสร้างให้ได้มาตรฐาน
ตรวจสอบดินและฐานรากก่อนเริ่มก่อสร้าง
บำรุงรักษาอาคารอย่างสม่ำเสมอ
รอยร้าวในอาคารไม่ใช่เรื่องเล็กที่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่ การเข้าใจ แนวทางตรวจสอบรอยร้าวอาคาร จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับปัญหาได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที และหากพบรอยร้าวที่น่าสงสัย อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว https://shorturl.asia/sIRa2