รั้วบ้านที่เริ่มทรุดตัว เป็นปัญหาที่เจ้าของบ้านหลายคนต้องพบเจอ โดยเฉพาะในพื้นที่ดินอ่อนหรือแถบที่มีการถมดินใหม่ ปัญหารั้วทรุดไม่เพียงทำให้บ้านดูไม่สวยงาม แต่ยังส่งผลต่อความปลอดภัยด้วย การแก้ไขรั้วทรุดจึงต้องเลือกวิธีที่เหมาะสม ซึ่งโดยทั่วไปมี 2 วิธีหลัก ๆ คือ การทำเสาเข็ม และการปรับระดับพื้นดิน วันนี้เราจะมาดูกันว่าแต่ละวิธีคืออะไร เหมาะกับกรณีไหน และควรเลือกอย่างไร
เสาเข็ม คือโครงสร้างที่ใช้ถ่ายน้ำหนักจากตัวรั้วลงสู่ดินชั้นลึกที่แข็งแรงกว่า ป้องกันการทรุดตัวในอนาคต การแก้รั้วทรุดด้วยเสาเข็มนิยมใช้วิธีเจาะเสาเข็มไมโครไพล์ (Micro Pile) ซึ่งเป็นเสาเข็มขนาดเล็ก เหมาะสำหรับงานซ่อมแซมโดยไม่ต้องรื้อรั้วเดิมออกทั้งหมด
ข้อดีของการทำเสาเข็ม:
ป้องกันการทรุดตัวซ้ำในระยะยาว
รับน้ำหนักได้มากกว่าการปรับระดับพื้นดิน
เหมาะกับรั้วขนาดใหญ่หรือรั้วที่มีโครงสร้างหนัก เช่น รั้วคอนกรีต
ข้อควรระวัง:
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
ต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือเฉพาะทาง
อีกทางเลือกหนึ่งคือ การปรับระดับพื้นดิน โดยการเติมดิน หรือยกพื้นขึ้นให้ได้ระดับเดิม วิธีนี้เหมาะกับรั้วที่ทรุดตัวเพียงเล็กน้อย เช่น รั้วไม้ รั้วเหล็ก หรือรั้วที่ไม่ได้มีน้ำหนักมาก
ข้อดีของการปรับระดับพื้นดิน:
ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการทำเสาเข็ม
ใช้เวลาซ่อมแซมไม่นาน
เหมาะสำหรับรั้วที่มีโครงสร้างเบา หรือทรุดตัวเล็กน้อย
ข้อควรระวัง:
หากดินเดิมยังไม่นิ่ง อาจเกิดการทรุดตัวซ้ำได้
ไม่เหมาะกับรั้วที่มีน้ำหนักมากหรือทรุดตัวรุนแรง
การเลือกวิธีแก้รั้วทรุดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดและน้ำหนักของรั้ว ระดับการทรุดตัว และงบประมาณ หากรั้วทรุดตัวมาก มีรอยร้าว หรือรั้วเอียงจนเสี่ยงต่อการล้ม ควรเลือกทำเสาเข็มเพื่อแก้ปัญหาอย่างถาวร แต่ถ้ารั้วเบาและทรุดตัวเพียงเล็กน้อย การปรับระดับพื้นดินก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและรวดเร็ว
อย่าลืมว่าก่อนตัดสินใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านงานฐานรากหรือช่างซ่อมรั้วมืออาชีพ เพื่อประเมินสภาพปัญหาอย่างถูกต้อง และเลือกวิธีแก้ไขที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้รั้วบ้านของคุณแข็งแรง สวยงาม และปลอดภัยในระยะยาว https://shorturl.asia/sIRa2