หลายคนอาจเคยเจอปัญหา “รั้วบ้านทรุด” ไม่ว่าจะเป็นรั้วปูน รั้วอิฐ หรือรั้วกำแพงที่เริ่มเอียง แตก หรือแยกจากตัวบ้าน ซึ่งมักทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกกังวลว่า “รั้วทรุดแล้วบ้านจะพังไหม?” บทความนี้มีคำตอบ พร้อมคำแนะนำในการดูแลบ้านและรั้วให้ปลอดภัยในระยะยาว
ก่อนจะตอบว่าบ้านจะพังไหม เราต้องเข้าใจก่อนว่าอะไรทำให้รั้วทรุด สาเหตุหลักๆ ได้แก่:
การทรุดตัวของดิน: ดินบริเวณรั้วอาจมีการอัดแน่นไม่ดี หรือเป็นดินอ่อน ทำให้เกิดการทรุด
การวางฐานรากไม่เหมาะสม: หากรั้วไม่มีฐานรากลึกพอ หรือไม่ได้ใช้เสาเข็ม อาจทรุดง่าย
น้ำท่วม หรือระบายน้ำไม่ดี: น้ำสามารถกัดเซาะดินรอบๆ ฐานราก ทำให้ดินอ่อนตัว
การแยกตัวระหว่างบ้านกับรั้ว: โดยทั่วไป รั้วจะไม่ได้สร้างติดกับฐานรากบ้าน ทำให้สามารถทรุดแยกจากกันได้
คำตอบคือ: “โดยทั่วไปไม่ทำให้บ้านพัง”
เพราะรั้วกับตัวบ้านมักแยกโครงสร้างกัน บ้านจะมีเสาเข็มและฐานรากลึกกว่ารั้วมาก หากรั้วทรุดเพราะปัญหาดินเฉพาะจุด บ้านมักไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง
แต่… อย่านิ่งนอนใจ!
หากพบว่าไม่ใช่แค่รั้วที่ทรุด แต่มีรอยร้าวต่อเนื่องมายังตัวบ้าน หรือพื้นบ้านเริ่มเอียง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า “ดินใต้บ้านกำลังทรุดตัวด้วย” ซึ่งในกรณีนี้ควรให้วิศวกรตรวจสอบทันที
ถมดินให้แน่น: ก่อนก่อสร้างรั้ว ควรถมและบดอัดดินให้แน่น โดยเฉพาะบริเวณใกล้รั้ว
ใช้ฐานรากที่แข็งแรง: หากรั้วยาวหรือสูง ควรใช้ฐานรากลึก หรือเสาเข็ม
ระบายน้ำดี: ป้องกันน้ำขังรอบรั้ว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของดินอ่อน
ตรวจสอบสม่ำเสมอ: หากเริ่มเห็นรอยร้าวหรือการเอียง ควรรีบซ่อมก่อนลุกลาม
แม้ว่า “รั้วทรุด” มักไม่ทำให้ “บ้านพัง” โดยตรง แต่ก็เป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม ควรหาสาเหตุ ตรวจสอบโครงสร้าง และวางแผนซ่อมแซมอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันความเสียหายในอนาคต
https://shorturl.asia/sIRa2